- This topic has 0 ข้อความตอบกลับ, 1 เสียง, and was last updated 4 years, 4 months มาแล้ว by betaglucan-maho.
กำลังดู 1 ข้อความ - 1 ผ่านทาง 1 (ของทั้งหมด 1)
-
ผู้เขียนข้อความ
-
betaglucan-mahoKeymaster
โรคมะเร็งต่อมน้ำเหลือง(Lymphoma)
คือมะเร็งที่เกิดขึ้นที่ระบบน้ำเหลือง ซึ่งกระจายอยู่ทั่วร่างกาย ที่มีน้ำเหลือง ท่อน้ำเหลือง และต่อมน้ำเหลือง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของระบบภูมิคุ้มกันร่างกาย ทำหน้าที่ป้องกันเชื้อโรค โดยจะทำลายสิ่งมีชีวิต สิ่งแปลกปลอมที่เข้ามาในร่างกาย เช่น เชื้อไวรัส แบคทีเรีย ดังนั้นจึงสามารถเกิดขึ้นกับทั่วร่างกายที่มีระบบน้ำเหลือง อาการสำคัญที่ควรตระหนักคือ ต่อมน้ำเหลือง บวมโต แต่ไม่มีอาการเจ็บร่วมด้วย
ประเภทของมะเร็งต่อมน้ำเหลืองแบ่งออกเป็น 2 ประภท
มะเร็งต่อมน้ำเหลืองฮอดจ์กิน(Hodgkin Lymphoma: HL) จะทำหน้าที่ดักจับและทำลายเชื้อโรค หากเกิดความผิดปกติจะเริ่มสะสมจนกลายมาเป็นเซลล์มะเร็งในระบบน้ำเหลือง ซึ่งเกิดได้ทุกส่วนของร่างกาย โดยส่วนมากจะพบในเด็กและวัยรุ่นหนุ่มสาว และแต่ละปีมีคนป่วยประเภทนี้ 62,000 คนทั่วโลก ในขณะเดียวกันจะมีผู้เสียชีวิตจากมะเร็งต่อมน้ำเหลืองฮอดจ์กินทั่วโลก 25,000 คน
มะเร็งต่อมน้ำเหลืองนอนฮอดจ์กิน(Non-Hodgkin Lymphoma: NHL) เมื่อเกิดความผิดปกติจะมีการแบ่งตัวของ ลิมโพไซต์ชนิด B หรือ T จนไม่สามารถควบคุมได้ และกลายมาเป็นเซลล์มะเร็งในระบบน้ำเหลือง ซึ่งเกิดได้ทุกส่วนของร่างกาย โดยส่วนมากจะพบในวัยผู้ใหญ่และผู้ที่มีเชื้อ HIV
อาการของโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลือง
อาการที่บ่งชี้คือ มีการบวมที่ต่อมน้ำเหลือง บริเวณคอ รักแร้ ขาหนีบและจะไม่มีอาการเจ็บร่วมด้วย นอกจากนี้อาจมีอาการร่วมอย่างอื่นด้วย
-
ไม่ไข้ อ่อนเพลีย เหนื่อยล้า
-
มีอาการเหงื่อออกตอนกลางคืน
-
น้ำหนักลดแบบไม่ทราบสาเหตุ
-
มีอาการติดเชื้อรุนแรง
ระยะของโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลือง มี 4 ระยะ
ระยะที่1 เซลล์มะเร็งเกิดขึ้นที่ต่อมน้ำเหลืองเพียงต่อมเดียว
ระยะที่2 เซลล์มะเร็งเริ่มเกิดที่ต่อมน้ำเหลืองตั้งแต่ 2 จุดขึ้นไป โดยทุกจุดเกิดขึ้นบริเวณเหนือกระบังลมหรือใต้กระบังลมส่วนใดส่วนหนึ่งเท่านั้น
ระยะที่3 เซลล์มะเร็งเกิดขึ้นที่ต่อมน้ำเหลืองตั้งแต่ 2 จุดขึ้นไป โดยกระจายอยู่ทั่วร่างกาย
ระยะที่4 เซลล์มะเร็งได้ลุกลามไปสู่อวัยวะอื่นภายนอกระบบน้ำเหลือง เช่น ตับ ปอด เป็นต้น
การรักษามะเร็งต่อมน้ำเหลือง ปัจจุบัน
-
การใช้เคมีบำบัด มีหลายชนิดขึ้นอยู่กับแพทย์เป็นคนสั่งจ่าย บ้างก็เม็ด หรือใช้การฉีดผ่านหลอดเลือดดำ
-
การใช้รังสีรักษา คือการใช้รังสีพลังงานสูง เช่น รังสีเอกซเรย์ หรือรังสีโปรตอน
-
การปลูกถ่ายไขกระดูก ด้วยการใช้รังสีปริมาณสูงหรือยาทางเคมีกดการทำงานของไขกระดูกเพื่อไม่ให้ร่างกายต่อต้านไขกระดูกใหม่ที่จะได้รับ แล้วจึงนำสเต็มเซลล์ที่ดีฉีดเข้าไปในเลือดเพื่อสร้างไขกระดูกใหม่
-
การใช้ยาชนิดอื่นๆ เพื่อกระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายให้ทำลายหรือยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง
การรักษาทางเลือกโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลือง
เบต้ากลูแคนจะช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันในร่างกายให้รักษาตัวเองตามธรรมชาติ เพิ่มประสิทธิภาพของเซลล์ภูมิต้านทานในร่างกาย กระตุ้นเซลล์เม็ดเลือดขาวให้เข้าไปจัดการเซลล์มะเร็ง อีกทั้งช่วยลดและป้องกันการเกิดอนุมูลอิสระในร่างกาย ผู้ป่วยมะเร็งต่อมน้ำเหลืองควรทานเบต้ากลูแคน ควบคู่กับการรักษาด้วยคีโม หรือรังสีรักษา จะทำให้ผู้ป่วยนั้นฟื้นตัวได้เร็วอย่างน่าอัศจรรย์และต่อสู้ ทำลายโครงสร้างเซลล์มะเร็งได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดูขอมูล เบต้ากลูแคนเพิ่มเติมที่นี่
คุณวิภาพรรณ พันธภาค(อายุ 51 ปี) ป่วยเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลือง ระยะ 3-4 ได้เล่าประสบการณ์
พี่ทำงานหนักมาตลอด จนระยะหลังๆ เริ่มมีอาการเป็นไข้บ่อยๆ อ่อนเพลีย พอไม่มีแรง ก็ทรุดลงไปกองกับพื้นเลย
พอเป็นหนักขึ้นก็คือเป็นไข้ ตลอดทั้งวันทั้งคืน ตอนแรกไปหาหมอก็ไม่ทราบสาเหตุ สันนิษฐานว่าเป็นไข้หวัดใหญ่ จนไม่ไหวเลิกไปหาหมอ กลับมาพักที่บ้าน 2 เดือน อาการกลับเป็นหนักกว่าเดิม จนต้องกลับไปหาหมออีกครั้ง หมอจึงตัดชิ้นเนื้อไปตรวจ จึงพบว่าเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลืองระยะที่ 3 ไประยะที่ 4 แล้ว แต่ญาติๆ ไม่ได้บอกว่าตนเองเป็นมะเร็ง จนมารู้อีกที เพราะต้องฉีดคีโม 8 เข็ม พอรู้แล้วก็ร้องไห้เสียใจ ว่าทำไมเราต้องมาเป็นโรคร้าย คิดอย่างเดียวว่าโรคนี้เป็นแล้วคือต้องตายอย่างเดียว
ช่วงนั้นสภาพร่างกายแย่มาก นอนอยู่กับที่ ยกขาขึ้นได้ข้างเดียว ให้คีโมครั้งแรกแพ้มาก เกิดอาการหายใจไม่ออก อ่อนแรง จนต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ ตอนนั้นคิดว่าชีวิตเราต้องสู่ต่อนะ จึงทำให้ผ่านช่วงคีโมระยะแรกมาได้
ครั้งแรกที่ทานแล้วเชื่อในมะโฮ คือ ตอนนั้นจะขึ้นกรุงเทพ เพราะจะไปฟังเรื่องมะโฮ แต่ตอนนั้นป่วยอยู่ ก็กลัวจะไม่ไหว น้องโอ๋บอกว่าไม่เป็นไรพี่ทานมะโฮไปเรื่อยๆ เราก็ลองทานดู จนกลับมาถึงบ้าน ไม่มีอาการป่วยเลยทั้งที่ร่างกายเรายังไม่แข็งแรง จึงทำให้มั่นใจในมะโฮมากขึ้น จึงทำให้เริ่มทานอย่างจริงจัง วันละ 3 ซองขึ้นไปทุกวัน ถ้าต้องเดินทางก็ทานเพิ่ม ทำให้ร่างกายดีขึ้นมาตลอด พอป่วยก็ไม่เคยไปหาหมออีกเลย ใช้การทานมะโฮแทน
สุดท้ายอยากบอกคนที่เป็นอาการแบบเดียวกัน ให้ลองทานมะโฮ อยากจะลองศึกษาดูก่อนก็ได้เพื่อจะได้มั่นใจ ยิ่งเราได้ลองทานไปด้วยยิ่งทำให้มั่นใจมากขึ้น
https://www.youtube.com/watch?v=-LwEBHyaTAo
อาจารย์สมานป่วยเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลือง หลังจากใช้มะโฮ เบต้ากลูแคนจากยีสต์ดำ สามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ปกติ
https://www.youtube.com/watch?v=ncIsbMmzDjQ&t=2s
ไลน์รีวิวจากลูกค้าที่ให้ผู้ป่วยทานมะโฮ เบต้ากลูแคน ควบคู่กับการรักษาแพทย์แผนปัจจุบัน
แนะนำการรับประทาน มะโฮ เบต้ากลูแคนจากยีสต์ดำ
สำหรับผู้ป่วยโรงมะเร็งต่อมน้ำเหลืองให้ทานวันละ 6-12 ซองครับ ทานติดต่อกัน 3เดือนขึ้นไป หรือช่วงกำลังรักษาแผนปัจจุบบ ปรึกษา สอบถาม เพิ่มเติมที่ Line id: betaglucan-maho / โทร. 094-612-2800 คุณโอห์ม
สำหรับลูกค้ามะโฮ เบต้ากลูแคน ที่กดLike หรือกดShare Facebook รับส่วนลดและของแถมมากมาย ติดต่อได้ทางไลน์เลยครับ
-
-
ผู้เขียนข้อความ
-
ผู้เขียนข้อความ
-
โรคมะเร็งต่อมน้ำเหลือง(Lymphoma)
คือมะเร็งที่เกิดขึ้นที่ระบบน้ำเหลือง ซึ่งกระจายอยู่ทั่วร่างกาย ที่มีน้ำเหลือง ท่อน้ำเหลือง และต่อมน้ำเหลือง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของระบบภูมิคุ้มกันร่างกาย ทำหน้าที่ป้องกันเชื้อโรค โดยจะทำลายสิ่งมีชีวิต สิ่งแปลกปลอมที่เข้ามาในร่างกาย เช่น เชื้อไวรัส แบคทีเรีย ดังนั้นจึงสามารถเกิดขึ้นกับทั่วร่างกายที่มีระบบน้ำเหลือง อาการสำคัญที่ควรตระหนักคือ ต่อมน้ำเหลือง บวมโต แต่ไม่มีอาการเจ็บร่วมด้วย
ประเภทของมะเร็งต่อมน้ำเหลืองแบ่งออกเป็น 2 ประภท
มะเร็งต่อมน้ำเหลืองฮอดจ์กิน(Hodgkin Lymphoma: HL) จะทำหน้าที่ดักจับและทำลายเชื้อโรค หากเกิดความผิดปกติจะเริ่มสะสมจนกลายมาเป็นเซลล์มะเร็งในระบบน้ำเหลือง ซึ่งเกิดได้ทุกส่วนของร่างกาย โดยส่วนมากจะพบในเด็กและวัยรุ่นหนุ่มสาว และแต่ละปีมีคนป่วยประเภทนี้ 62,000 คนทั่วโลก ในขณะเดียวกันจะมีผู้เสียชีวิตจากมะเร็งต่อมน้ำเหลืองฮอดจ์กินทั่วโลก 25,000 คน
มะเร็งต่อมน้ำเหลืองนอนฮอดจ์กิน(Non-Hodgkin Lymphoma: NHL) เมื่อเกิดความผิดปกติจะมีการแบ่งตัวของ ลิมโพไซต์ชนิด B หรือ T จนไม่สามารถควบคุมได้ และกลายมาเป็นเซลล์มะเร็งในระบบน้ำเหลือง ซึ่งเกิดได้ทุกส่วนของร่างกาย โดยส่วนมากจะพบในวัยผู้ใหญ่และผู้ที่มีเชื้อ HIV
อาการของโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลือง
อาการที่บ่งชี้คือ มีการบวมที่ต่อมน้ำเหลือง บริเวณคอ รักแร้ ขาหนีบและจะไม่มีอาการเจ็บร่วมด้วย นอกจากนี้อาจมีอาการร่วมอย่างอื่นด้วย
-
ไม่ไข้ อ่อนเพลีย เหนื่อยล้า
-
มีอาการเหงื่อออกตอนกลางคืน
-
น้ำหนักลดแบบไม่ทราบสาเหตุ
-
มีอาการติดเชื้อรุนแรง
ระยะของโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลือง มี 4 ระยะ
ระยะที่1 เซลล์มะเร็งเกิดขึ้นที่ต่อมน้ำเหลืองเพียงต่อมเดียว
ระยะที่2 เซลล์มะเร็งเริ่มเกิดที่ต่อมน้ำเหลืองตั้งแต่ 2 จุดขึ้นไป โดยทุกจุดเกิดขึ้นบริเวณเหนือกระบังลมหรือใต้กระบังลมส่วนใดส่วนหนึ่งเท่านั้น
ระยะที่3 เซลล์มะเร็งเกิดขึ้นที่ต่อมน้ำเหลืองตั้งแต่ 2 จุดขึ้นไป โดยกระจายอยู่ทั่วร่างกาย
ระยะที่4 เซลล์มะเร็งได้ลุกลามไปสู่อวัยวะอื่นภายนอกระบบน้ำเหลือง เช่น ตับ ปอด เป็นต้น
การรักษามะเร็งต่อมน้ำเหลือง ปัจจุบัน
-
การใช้เคมีบำบัด มีหลายชนิดขึ้นอยู่กับแพทย์เป็นคนสั่งจ่าย บ้างก็เม็ด หรือใช้การฉีดผ่านหลอดเลือดดำ
-
การใช้รังสีรักษา คือการใช้รังสีพลังงานสูง เช่น รังสีเอกซเรย์ หรือรังสีโปรตอน
-
การปลูกถ่ายไขกระดูก ด้วยการใช้รังสีปริมาณสูงหรือยาทางเคมีกดการทำงานของไขกระดูกเพื่อไม่ให้ร่างกายต่อต้านไขกระดูกใหม่ที่จะได้รับ แล้วจึงนำสเต็มเซลล์ที่ดีฉีดเข้าไปในเลือดเพื่อสร้างไขกระดูกใหม่
-
การใช้ยาชนิดอื่นๆ เพื่อกระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายให้ทำลายหรือยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง
การรักษาทางเลือกโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลือง
เบต้ากลูแคนจะช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันในร่างกายให้รักษาตัวเองตามธรรมชาติ เพิ่มประสิทธิภาพของเซลล์ภูมิต้านทานในร่างกาย กระตุ้นเซลล์เม็ดเลือดขาวให้เข้าไปจัดการเซลล์มะเร็ง อีกทั้งช่วยลดและป้องกันการเกิดอนุมูลอิสระในร่างกาย ผู้ป่วยมะเร็งต่อมน้ำเหลืองควรทานเบต้ากลูแคน ควบคู่กับการรักษาด้วยคีโม หรือรังสีรักษา จะทำให้ผู้ป่วยนั้นฟื้นตัวได้เร็วอย่างน่าอัศจรรย์และต่อสู้ ทำลายโครงสร้างเซลล์มะเร็งได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดูขอมูล เบต้ากลูแคนเพิ่มเติมที่นี่
คุณวิภาพรรณ พันธภาค(อายุ 51 ปี) ป่วยเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลือง ระยะ 3-4 ได้เล่าประสบการณ์
พี่ทำงานหนักมาตลอด จนระยะหลังๆ เริ่มมีอาการเป็นไข้บ่อยๆ อ่อนเพลีย พอไม่มีแรง ก็ทรุดลงไปกองกับพื้นเลย
พอเป็นหนักขึ้นก็คือเป็นไข้ ตลอดทั้งวันทั้งคืน ตอนแรกไปหาหมอก็ไม่ทราบสาเหตุ สันนิษฐานว่าเป็นไข้หวัดใหญ่ จนไม่ไหวเลิกไปหาหมอ กลับมาพักที่บ้าน 2 เดือน อาการกลับเป็นหนักกว่าเดิม จนต้องกลับไปหาหมออีกครั้ง หมอจึงตัดชิ้นเนื้อไปตรวจ จึงพบว่าเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลืองระยะที่ 3 ไประยะที่ 4 แล้ว แต่ญาติๆ ไม่ได้บอกว่าตนเองเป็นมะเร็ง จนมารู้อีกที เพราะต้องฉีดคีโม 8 เข็ม พอรู้แล้วก็ร้องไห้เสียใจ ว่าทำไมเราต้องมาเป็นโรคร้าย คิดอย่างเดียวว่าโรคนี้เป็นแล้วคือต้องตายอย่างเดียว
ช่วงนั้นสภาพร่างกายแย่มาก นอนอยู่กับที่ ยกขาขึ้นได้ข้างเดียว ให้คีโมครั้งแรกแพ้มาก เกิดอาการหายใจไม่ออก อ่อนแรง จนต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ ตอนนั้นคิดว่าชีวิตเราต้องสู่ต่อนะ จึงทำให้ผ่านช่วงคีโมระยะแรกมาได้
ครั้งแรกที่ทานแล้วเชื่อในมะโฮ คือ ตอนนั้นจะขึ้นกรุงเทพ เพราะจะไปฟังเรื่องมะโฮ แต่ตอนนั้นป่วยอยู่ ก็กลัวจะไม่ไหว น้องโอ๋บอกว่าไม่เป็นไรพี่ทานมะโฮไปเรื่อยๆ เราก็ลองทานดู จนกลับมาถึงบ้าน ไม่มีอาการป่วยเลยทั้งที่ร่างกายเรายังไม่แข็งแรง จึงทำให้มั่นใจในมะโฮมากขึ้น จึงทำให้เริ่มทานอย่างจริงจัง วันละ 3 ซองขึ้นไปทุกวัน ถ้าต้องเดินทางก็ทานเพิ่ม ทำให้ร่างกายดีขึ้นมาตลอด พอป่วยก็ไม่เคยไปหาหมออีกเลย ใช้การทานมะโฮแทน
สุดท้ายอยากบอกคนที่เป็นอาการแบบเดียวกัน ให้ลองทานมะโฮ อยากจะลองศึกษาดูก่อนก็ได้เพื่อจะได้มั่นใจ ยิ่งเราได้ลองทานไปด้วยยิ่งทำให้มั่นใจมากขึ้น
https://www.youtube.com/watch?v=-LwEBHyaTAo
อาจารย์สมานป่วยเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลือง หลังจากใช้มะโฮ เบต้ากลูแคนจากยีสต์ดำ สามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ปกติ
https://www.youtube.com/watch?v=ncIsbMmzDjQ&t=2s
ไลน์รีวิวจากลูกค้าที่ให้ผู้ป่วยทานมะโฮ เบต้ากลูแคน ควบคู่กับการรักษาแพทย์แผนปัจจุบัน
แนะนำการรับประทาน มะโฮ เบต้ากลูแคนจากยีสต์ดำ
สำหรับผู้ป่วยโรงมะเร็งต่อมน้ำเหลืองให้ทานวันละ 6-12 ซองครับ ทานติดต่อกัน 3เดือนขึ้นไป หรือช่วงกำลังรักษาแผนปัจจุบบ ปรึกษา สอบถาม เพิ่มเติมที่ Line id: betaglucan-maho / โทร. 094-612-2800 คุณโอห์ม
สำหรับลูกค้ามะโฮ เบต้ากลูแคน ที่กดLike หรือกดShare Facebook รับส่วนลดและของแถมมากมาย ติดต่อได้ทางไลน์เลยครับ
-
-
ผู้เขียนข้อความ
กำลังดู 1 ข้อความ - 1 ผ่านทาง 1 (ของทั้งหมด 1)