- This topic has 0 ข้อความตอบกลับ, 1 เสียง, and was last updated 8 years, 1 month มาแล้ว by betaglucan-maho.
กำลังดู 1 ข้อความ - 1 ผ่านทาง 1 (ของทั้งหมด 1)
-
ผู้เขียนข้อความ
-
betaglucan-mahoKeymaster
ข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับโรคมะเร็งจาก รพ.จอห์น ฮอพกินส์ หลังจากหลายปีที่พูดกันว่าการทำคีโมเป็นทางเลือกเดียวที่จะลองและใช้ในการกำจัดโรคมะเร็งในที่สุด โรงพยาบาลจอห์น ฮอพกินส์ก็เริ่มแนะนำถึงทางเลือกอื่นๆ อีก…..
1.ทุกๆคนมีเซลมะเร็งอยู่ในร่างกาย เซล มะเร็งเหล่านี้จะไม่ปรากฎด้วยวิธีการตรวจสอบตามมาตรฐานจนกระทั่งมันขยายตัวเพิ่มขึ้นในระดับพันล้านเซล(1,000,000,000 เซล)เมื่อแพทย์บอกว่าไม่มีเซลมะเร็งในร่างกายผู้ป่วยโรคมะเร็งที่ได้รับการรักษาแล้วมันหมาย ถึงว่าระบบไม่สามารถตรวจสอบเซลมะเร็งได้ เพราะว่าจำนวนของมันยังไม่มากพอจนถึง ระดับที่สามารถตรวจจับได้เท่านั้น
2.เซลมะเร็งเกิดขึ้นระหว่าง6 ถึงมากกว่า 10 ครั้งในช่วงอายุของคนๆหนึ่ง
3.เมื่อระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายแข็งแรงเพียงพอ เซลมะเร็งจะถูกทำลายและป้องกันไ ม่ให้เกิดการขยายตัวและกลายเป็นเนื้องอก
4.เมื่อใครก็ตามเป็นมะเร็งมันกำลังบอกว่าคนๆนั้นมีความบกพร่องหลายประการเกี่ยวกับ โภชนาการซึ่งอาจเกิดจากยีนสิ่งแวดล้อม อาหารและปัจจัยอื่นๆในการดำรงชีวิต
5. เพื่อเอาชนะภาวะบกพร่องหลายประการ เกี่ยวกับโภชนาการ การเปลี่ยนแปลงประเภท ของอาหารรวมทั้งสารอาหารบางอย่างจะช่วย ให้ภูมิคุ้มกันแข็งแรงขึ้น
6.การทำคีโมคือการให้สารเคมีที่มีความเป็น พิษกับเซลมะเร็งที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว แต่ขณะเดียวกัน มันก็จะทำลายเซลที่ดีที่ กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วในไขกระดูกทำลาย ระบบทางเดินอาหาร ฯลฯและเป็นสาเหตุทำ ให้อวัยวะบางส่วนถูกทำลายเช่นตับ ไต หัวใจปอดฯลฯ
7.การบำบัดโดยคีโม และการฉายรังสีมักจะ ช่วยลดขนาดของเนื้องอกได้ในช่วงแรกๆ อย่าง ไรก็ตาม ถ้าทำไปนานๆพบว่ามักไม่ส่งผลต่อการทำลายเซลเนื้องอก
8.เมื่อร่างกายได้รับสารพิษจากการทำคีโมหรือการฉายรังสีมากเกินไป ระบบภูมิคุ้มกัน อาจปรับตัวเข้ากันได้หรือไม่ก็อาจถูกทำลายลง ดังนั้นคนๆนั้นจึงอาจตกอยู่ในอันตรายจากการติดเชื้อหลายชนิดและทำให้โรคมีความซับ ซ้อนยิ่งขึ้น
9.การทำคีโมและการฉายรังสีอาจเป็น สาเหตุทำให้เซลมะเร็งกลายพันธุ์ดื้อยา และยากต่อการทำลาย การผ่าตัดก็อาจเป็นสาเหตุทำให้เซลมะเร็งกระจายไปทั่วร่างกาย
10.วิธีที่ดีที่สุดในการทำสงครามกับมะเร็งคือการไม่ให้เซลมะเร็งได้รับอาหารเพื่อนำไปใช้ในการขยายตัว
อะไรคืออาหารที่ป้อนให้กับเซลมะเร็ง
-
A.น้ำตาลคือ อาหารของมะเร็ง การตัดน้ำตาลคือการตัดแหล่งอาหารสำคัญที่จ่ายให กับเซลมะเร็งสารทดแทนน้ำตาลอย่างเช่น”” นิวตร้าสวีต”” “” อีควล”” “” สปูนฟูล “” ฯลฯ ล้วนทำมาจากสารให้ความหวานซึ่งเป็นอันตรายสารทดแทนซึ่งเป็นกลางที่ดีกว่า คือน้ำผึ้ง มานูคา(จากนิวซีแลนด์) หรือน้ำอ้อยแต่ใน ปริมาณน้อยๆเท่านั้นเกลือสำเร็จรูป ก็ใช้สาร เคมีในการฟอกขาว ควรหันไปเลือกใช้”” แบรก อมิโน”” หรือ เกลือทะเลแทน
-
B.นม เป็นสาเหตุทำให้ร่างกายผลิตเมือก โดยเฉพาะในระบบทางเดินอาหาร เซลมะเร็ง จะได้รับอาหารได้ดีในสภาวะที่มีเมือกการใช้ นมถั่วเหลืองชนิดไม่หวานแทนนม จะทำให้ เซลมะเร็งไม่ ได้รับอาหาร
-
C.เซลมะเร็งเติบโตได้ดีในภาวะแดล้อมที่เป็นกรด อาหารจำพวก เนื้อ จะสร้างสภาวะ กรดขึ้นดังนั้นจึงควรหันไปรับประทาน ปลา จะดีที่สุด รองลงไปคือรับประทานไก่แทน เนื้อและหมู ในเนื้ออาจมียาฆ่าเชื้อ ฮอร์โมนที่ สร้างการเจริญเติบโตในสัตว์และเชื้อปรสิต บางประเภทตกค้างอยู่ซึ่งล้วนเป็นอันตราย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับคนที่เป็นมะเร็ง
-
D.อาหารที่ประกอบด้วยผักสด80% และน้ำ ผลไม้พืช จำพวกหัวเมล็ดถั่วเปลือกแข็ง และ ผลไม้จำนวนเล็กน้อยจะช่วยทำให้ร่างกายมี สภาวะเป็นด่างอาหารอีก20% อาจได้มาจากการทำอาหารร่วมกับพืชจำพวกถั่วน้ำผักสด จะให้เอ็นไซม์ซึ่งสามารถดูดซึมได้ง่ายและซึม ทราบสู่ระดับเซลภายใน 1 นาที เพื่อบำรุงร่า งกายและส่งเสริมการเจริญเติบโตของเซลที่ดี เพื่อให้ได้เอ็นไซม์ในการสร้างเซลที่ดี ให้ พยายามดื่มน้ำผักสด (ผักส่วนใหญ่รวมทั้งถั่ว ที่มีหน่อหรือต้นอ่อน)และรับประทานผักสด ดิบ2-3 ครั้งต่อวันเอ็นไซม์จะถูกทำลายได้ง่าย ที่อุณหภูมิ140 องศาF (ประมาณ 4 องศา C)
-
E.ให้หลีกเลี่ยงกาแฟน้ำชาและช๊อกโกแลต ซึ่งมีคาเฟอีนสูง…ชาเขียว ถือเป็นทางเลือกที่ดี และมีคุณสมบัติในการต้านมะเร็งน้ำดื่มให้ เลือกดื่มน้ำบริสุทธิ์หรือที่ผ่านการกรอง เพื่อหลีกเลี่ยงท๊อกซิน และโลหะหนักในน้ำประปา น้ำกลั่นมักมีสภาพเป็นกรดให้หลีกเลี่ยง
11. โปรตีนจากเนื้อจะย่อยยากและต้องการ เอ็นไซม์หลายชนิดมาช่วยในการย่อยเนื้อ สัตว์ที่ไม่สามารถย่อยได้ในระบบทางเดินอาห ารจะเกิดการบูดเน่าและมีความเป็นพิษมากขึ้น
12. ผนังของเซลมะเร็งจะมีโปรตีนห่อหุ้มไว้ การงดหรือ การรับประทานเนื้อสัตว์น้อยลง จะทำให้มีเอ็นไซม์เหลือมากพอ มาใช้โจมตี กำแพงโปรตีนที่ห่อหุ้มเซลมะเร็งและช่วยให้ เซลของร่างกายสามารถกำจัดเซลมะเร็งได้ดี ขึ้น
13. สารอาหารบางอย่างอาจช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกัน (สารIP6 [inositol hexaphosphate หรือ phyti acid],สาร Flor-essence, สารEssiac, สารแอนตี้-อ๊อกซิแดนส์ , วิตามิน, เกลือแร่ , EFAs ฯลฯ) เพื่อช่วยให้เซลของร่างกายสามาร ถกำจัดเซลมะเร็งได้ดีขึ้นสารอาหารอื่นๆเช่น วิตามินอีเป็นที่ทราบกันดีว่าทำให้เกิดการตาย ลงของเซลหรือ กำหนดระยะเวลาการตาย ของเซล ซึ่งเป็นกลไกธรรมชาติของร่างกาย ในการ กำจัดเซลที่ถูกทำลายซึ่งไม่เป็นที่ต้อง การ หรือไม่มีประโยชน์ออกไป
14. มะเร็งเป็นโรคที่สัมพันธ์ กับจิตใจ ร่างกาย และจิตวิญญาณการป้องกันเชิงรุก และ การคิดในเชิงบวกจะช่วยให้เราสามารถ อยู่รอดจากการทำสงครามกับมะเร็ง…. ความ โกรธ การไม่รู้จักให้อภัยและความขมขื่นใจ จะทำให้ร่างกายเกิดความตึงเครียดและมี สภาวะเป็นกรดเพิ่มขึ้นให้เรียนรู้ที่จะมีความ รักและจิตวิญญาณแห่งการให้อภัยเรียนรู้ที่ จะผ่อนคลายและมีความสุขกับชีวิต
15. เซลมะเร็งไม่สามารถเจริญเติบโตได้ใน สภาวะที่มีอ๊อกซิเจนเป็นจำนวนมากการออก กำลังกายทุกวันและการหายใจลึกๆ จะช่วยให้ ร่างกายได้รับอ๊อกซิเจนเพิ่มขึ้นลงไปจนระดับ เซลการบำบัดด้วยอ๊อกซิเจนถือเป็นวิธีการอีก อย่างที่ใช้ในการทำลายเซลมะเร็ง
ขอบคุณข้อมูลดีๆจาก Forwarder
สำหรับเบต้ากลูแคน จากงานวิจัยเกี่ยวกับโรคมะเร็ง จะสามารถกระตุ้นภูมิต้านทาน ภูมิคุ้มกันให้ต่อสู้กับเซลล์มะเร็งได้อย่างมีประสิทธิภาพ และลดอาการแพ้ยาจากคีโมหรือฉายแสง จากประสบการณ์ผู้ใช้เบต้ากลูแคนร่วมกับการคีโมหรือฉายแสง ก็จะไม่มีอาการแพ้ยาเลย เพียงรับประทานในปริมาณที่เพียงพอ ทำให้ร่างกายสามารถต่อสู้กับโรคมะเร็งได้ดียิ่งขึ้น
-
-
ผู้เขียนข้อความ
-
ผู้เขียนข้อความ
-
ข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับโรคมะเร็งจาก รพ.จอห์น ฮอพกินส์ หลังจากหลายปีที่พูดกันว่าการทำคีโมเป็นทางเลือกเดียวที่จะลองและใช้ในการกำจัดโรคมะเร็งในที่สุด โรงพยาบาลจอห์น ฮอพกินส์ก็เริ่มแนะนำถึงทางเลือกอื่นๆ อีก…..
1.ทุกๆคนมีเซลมะเร็งอยู่ในร่างกาย เซล มะเร็งเหล่านี้จะไม่ปรากฎด้วยวิธีการตรวจสอบตามมาตรฐานจนกระทั่งมันขยายตัวเพิ่มขึ้นในระดับพันล้านเซล(1,000,000,000 เซล)เมื่อแพทย์บอกว่าไม่มีเซลมะเร็งในร่างกายผู้ป่วยโรคมะเร็งที่ได้รับการรักษาแล้วมันหมาย ถึงว่าระบบไม่สามารถตรวจสอบเซลมะเร็งได้ เพราะว่าจำนวนของมันยังไม่มากพอจนถึง ระดับที่สามารถตรวจจับได้เท่านั้น
2.เซลมะเร็งเกิดขึ้นระหว่าง6 ถึงมากกว่า 10 ครั้งในช่วงอายุของคนๆหนึ่ง
3.เมื่อระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายแข็งแรงเพียงพอ เซลมะเร็งจะถูกทำลายและป้องกันไ ม่ให้เกิดการขยายตัวและกลายเป็นเนื้องอก
4.เมื่อใครก็ตามเป็นมะเร็งมันกำลังบอกว่าคนๆนั้นมีความบกพร่องหลายประการเกี่ยวกับ โภชนาการซึ่งอาจเกิดจากยีนสิ่งแวดล้อม อาหารและปัจจัยอื่นๆในการดำรงชีวิต
5. เพื่อเอาชนะภาวะบกพร่องหลายประการ เกี่ยวกับโภชนาการ การเปลี่ยนแปลงประเภท ของอาหารรวมทั้งสารอาหารบางอย่างจะช่วย ให้ภูมิคุ้มกันแข็งแรงขึ้น
6.การทำคีโมคือการให้สารเคมีที่มีความเป็น พิษกับเซลมะเร็งที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว แต่ขณะเดียวกัน มันก็จะทำลายเซลที่ดีที่ กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วในไขกระดูกทำลาย ระบบทางเดินอาหาร ฯลฯและเป็นสาเหตุทำ ให้อวัยวะบางส่วนถูกทำลายเช่นตับ ไต หัวใจปอดฯลฯ
7.การบำบัดโดยคีโม และการฉายรังสีมักจะ ช่วยลดขนาดของเนื้องอกได้ในช่วงแรกๆ อย่าง ไรก็ตาม ถ้าทำไปนานๆพบว่ามักไม่ส่งผลต่อการทำลายเซลเนื้องอก
8.เมื่อร่างกายได้รับสารพิษจากการทำคีโมหรือการฉายรังสีมากเกินไป ระบบภูมิคุ้มกัน อาจปรับตัวเข้ากันได้หรือไม่ก็อาจถูกทำลายลง ดังนั้นคนๆนั้นจึงอาจตกอยู่ในอันตรายจากการติดเชื้อหลายชนิดและทำให้โรคมีความซับ ซ้อนยิ่งขึ้น
9.การทำคีโมและการฉายรังสีอาจเป็น สาเหตุทำให้เซลมะเร็งกลายพันธุ์ดื้อยา และยากต่อการทำลาย การผ่าตัดก็อาจเป็นสาเหตุทำให้เซลมะเร็งกระจายไปทั่วร่างกาย
10.วิธีที่ดีที่สุดในการทำสงครามกับมะเร็งคือการไม่ให้เซลมะเร็งได้รับอาหารเพื่อนำไปใช้ในการขยายตัว
อะไรคืออาหารที่ป้อนให้กับเซลมะเร็ง
-
A.น้ำตาลคือ อาหารของมะเร็ง การตัดน้ำตาลคือการตัดแหล่งอาหารสำคัญที่จ่ายให กับเซลมะเร็งสารทดแทนน้ำตาลอย่างเช่น”” นิวตร้าสวีต”” “” อีควล”” “” สปูนฟูล “” ฯลฯ ล้วนทำมาจากสารให้ความหวานซึ่งเป็นอันตรายสารทดแทนซึ่งเป็นกลางที่ดีกว่า คือน้ำผึ้ง มานูคา(จากนิวซีแลนด์) หรือน้ำอ้อยแต่ใน ปริมาณน้อยๆเท่านั้นเกลือสำเร็จรูป ก็ใช้สาร เคมีในการฟอกขาว ควรหันไปเลือกใช้”” แบรก อมิโน”” หรือ เกลือทะเลแทน
-
B.นม เป็นสาเหตุทำให้ร่างกายผลิตเมือก โดยเฉพาะในระบบทางเดินอาหาร เซลมะเร็ง จะได้รับอาหารได้ดีในสภาวะที่มีเมือกการใช้ นมถั่วเหลืองชนิดไม่หวานแทนนม จะทำให้ เซลมะเร็งไม่ ได้รับอาหาร
-
C.เซลมะเร็งเติบโตได้ดีในภาวะแดล้อมที่เป็นกรด อาหารจำพวก เนื้อ จะสร้างสภาวะ กรดขึ้นดังนั้นจึงควรหันไปรับประทาน ปลา จะดีที่สุด รองลงไปคือรับประทานไก่แทน เนื้อและหมู ในเนื้ออาจมียาฆ่าเชื้อ ฮอร์โมนที่ สร้างการเจริญเติบโตในสัตว์และเชื้อปรสิต บางประเภทตกค้างอยู่ซึ่งล้วนเป็นอันตราย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับคนที่เป็นมะเร็ง
-
D.อาหารที่ประกอบด้วยผักสด80% และน้ำ ผลไม้พืช จำพวกหัวเมล็ดถั่วเปลือกแข็ง และ ผลไม้จำนวนเล็กน้อยจะช่วยทำให้ร่างกายมี สภาวะเป็นด่างอาหารอีก20% อาจได้มาจากการทำอาหารร่วมกับพืชจำพวกถั่วน้ำผักสด จะให้เอ็นไซม์ซึ่งสามารถดูดซึมได้ง่ายและซึม ทราบสู่ระดับเซลภายใน 1 นาที เพื่อบำรุงร่า งกายและส่งเสริมการเจริญเติบโตของเซลที่ดี เพื่อให้ได้เอ็นไซม์ในการสร้างเซลที่ดี ให้ พยายามดื่มน้ำผักสด (ผักส่วนใหญ่รวมทั้งถั่ว ที่มีหน่อหรือต้นอ่อน)และรับประทานผักสด ดิบ2-3 ครั้งต่อวันเอ็นไซม์จะถูกทำลายได้ง่าย ที่อุณหภูมิ140 องศาF (ประมาณ 4 องศา C)
-
E.ให้หลีกเลี่ยงกาแฟน้ำชาและช๊อกโกแลต ซึ่งมีคาเฟอีนสูง…ชาเขียว ถือเป็นทางเลือกที่ดี และมีคุณสมบัติในการต้านมะเร็งน้ำดื่มให้ เลือกดื่มน้ำบริสุทธิ์หรือที่ผ่านการกรอง เพื่อหลีกเลี่ยงท๊อกซิน และโลหะหนักในน้ำประปา น้ำกลั่นมักมีสภาพเป็นกรดให้หลีกเลี่ยง
11. โปรตีนจากเนื้อจะย่อยยากและต้องการ เอ็นไซม์หลายชนิดมาช่วยในการย่อยเนื้อ สัตว์ที่ไม่สามารถย่อยได้ในระบบทางเดินอาห ารจะเกิดการบูดเน่าและมีความเป็นพิษมากขึ้น
12. ผนังของเซลมะเร็งจะมีโปรตีนห่อหุ้มไว้ การงดหรือ การรับประทานเนื้อสัตว์น้อยลง จะทำให้มีเอ็นไซม์เหลือมากพอ มาใช้โจมตี กำแพงโปรตีนที่ห่อหุ้มเซลมะเร็งและช่วยให้ เซลของร่างกายสามารถกำจัดเซลมะเร็งได้ดี ขึ้น
13. สารอาหารบางอย่างอาจช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกัน (สารIP6 [inositol hexaphosphate หรือ phyti acid],สาร Flor-essence, สารEssiac, สารแอนตี้-อ๊อกซิแดนส์ , วิตามิน, เกลือแร่ , EFAs ฯลฯ) เพื่อช่วยให้เซลของร่างกายสามาร ถกำจัดเซลมะเร็งได้ดีขึ้นสารอาหารอื่นๆเช่น วิตามินอีเป็นที่ทราบกันดีว่าทำให้เกิดการตาย ลงของเซลหรือ กำหนดระยะเวลาการตาย ของเซล ซึ่งเป็นกลไกธรรมชาติของร่างกาย ในการ กำจัดเซลที่ถูกทำลายซึ่งไม่เป็นที่ต้อง การ หรือไม่มีประโยชน์ออกไป
14. มะเร็งเป็นโรคที่สัมพันธ์ กับจิตใจ ร่างกาย และจิตวิญญาณการป้องกันเชิงรุก และ การคิดในเชิงบวกจะช่วยให้เราสามารถ อยู่รอดจากการทำสงครามกับมะเร็ง…. ความ โกรธ การไม่รู้จักให้อภัยและความขมขื่นใจ จะทำให้ร่างกายเกิดความตึงเครียดและมี สภาวะเป็นกรดเพิ่มขึ้นให้เรียนรู้ที่จะมีความ รักและจิตวิญญาณแห่งการให้อภัยเรียนรู้ที่ จะผ่อนคลายและมีความสุขกับชีวิต
15. เซลมะเร็งไม่สามารถเจริญเติบโตได้ใน สภาวะที่มีอ๊อกซิเจนเป็นจำนวนมากการออก กำลังกายทุกวันและการหายใจลึกๆ จะช่วยให้ ร่างกายได้รับอ๊อกซิเจนเพิ่มขึ้นลงไปจนระดับ เซลการบำบัดด้วยอ๊อกซิเจนถือเป็นวิธีการอีก อย่างที่ใช้ในการทำลายเซลมะเร็ง
ขอบคุณข้อมูลดีๆจาก Forwarder
สำหรับเบต้ากลูแคน จากงานวิจัยเกี่ยวกับโรคมะเร็ง จะสามารถกระตุ้นภูมิต้านทาน ภูมิคุ้มกันให้ต่อสู้กับเซลล์มะเร็งได้อย่างมีประสิทธิภาพ และลดอาการแพ้ยาจากคีโมหรือฉายแสง จากประสบการณ์ผู้ใช้เบต้ากลูแคนร่วมกับการคีโมหรือฉายแสง ก็จะไม่มีอาการแพ้ยาเลย เพียงรับประทานในปริมาณที่เพียงพอ ทำให้ร่างกายสามารถต่อสู้กับโรคมะเร็งได้ดียิ่งขึ้น
-
-
ผู้เขียนข้อความ
กำลังดู 1 ข้อความ - 1 ผ่านทาง 1 (ของทั้งหมด 1)