- This topic has 0 ข้อความตอบกลับ, 1 เสียง, and was last updated 6 years, 7 months มาแล้ว by betaglucan-maho.
กำลังดู 1 ข้อความ - 1 ผ่านทาง 1 (ของทั้งหมด 1)
-
ผู้เขียนข้อความ
-
betaglucan-mahoKeymaster
คอเลสเตอรอล(Cholesterol)
เป็นกลุ่มไขมัน เป็นสารที่ไม่มีสีไม่มีกลิ่นและไม่ละลายน้ำ เป็นสิ่งจำเป็นที่ร่างกายขาดไม่ได้เพราะเป็นส่วนประกอบของฮอร์โมนและโครงสร้างผนังเซลล์ เช่น estrogen, cortisol, aldosterone นอกจากนั้นยังใช้ในการสร้างวิตามินดีและน้ำดีสำหรับย่อยไขมันในอาหาร เป็นต้น
ในระบบหมุนเวียนเลือด คอเลสเตอรอลจะถูกหุ้มด้วยสาร Lipoprotein ซึ่งจะทำหน้าที่ขนส่ง คอเลสเตอรอลไปยังกระแสเลือดไปยังเซลล์ต่างๆ เพื่อนำไปใช้งาน โดย Lipiprotens ที่หุ้มคอเลสเตอรอลนี้ มี 2 ชนิด คือ
1.Low-density lipiprotens(LDLs) ทำหน้าที่ขนส่งคอเลสเตอรอลไปเก็บไว้ยังเซลล์ต่างๆ เพื่อนำมาผลิตฮอร์โมน หรือไปสร้างผนังเซลล์ หากคอเลสเตอรอลที่เกินความต้องการ LDLs จะนำไปเกาะไว้ตามผนังเส้นเลือดแดงและเมื่อมีการสะสมไปเรื่อยๆ จะทำให้เส้นเลือดแดงตีบลง ในที่สุดจะเกิดการอุดตันของเส้นเลือดแดง ทำให้เซลล์บริเวณนั้นขาดเลือดไปหล่อเลี้ยง เกิดเซลล์ตาย จึงเรียก LDLs ว่า คอลเลสเตอรอลชนิด “ร้าย,เลว”
2.High-density lipoproteins(HDLs) ทำหน้าที่ขนส่งคอเลสเตอรอลไปยังตับ และขับออกจากร่างกายผ่านทางน้ำดี เนื่องจาก HDLs ทำหน้าที่กำจัดคอเลสเตอรอลส่วนเกิน จึงถูกเรียกว่า คอเลสเตอรอล ชนิด “ดี”
เนื่องจาก Cholesterol นั้นมีความสำคัญต่อร่างกายที่ขาดไม่ได้ ดังนั้นร่างกายจะมีขบวนการสร้างคอเลสเตอรอลขึ้นมาเอง เพื่อประกันว่าร่างกายจะมีคอเลสเตอรอลอยู่ตลอด ธรรมชาติของร่างกายที่จะรักษาสมดุลของคอเลสเตอรอลให้คงที่ เมื่อร่างกายได้รับอาหารจำพวกนม เนย เนื้อสัตว์ และไข่ในปริมาณมาก ร่างกายก็จะลดการสร้างคอเลสเตอรอลลง ในทางตรงกันข้ามหากร่างกายได้รับอาหารจำพวกพืช เพราะพืชไม่สามารถสร้าง Cholesterol ได้ ร่างกายจึงสร้างคอเลสเตอรอลเพิ่มขึ้นเพื่อชดเชย ถ้าหากมีคอเลสเตอรอลที่เป็นส่วนเกิน จะถูกส่งไปยังตับ น้ำดี และขับออกทางอุจจาระ แต่ถ้าหากมีการเพิ่มสูงขึ้นของระดับคอเลสเตอรอลอย่างผิดปกติ มีสาเหตุหลักอยู่ 2 ประการคือ จากพันธุกรรมและพฤติกรรมการทานอาหาร อาจรวมถึง การขาดการออกกำลังกายและสูบบุหรี่ด้วย
-
ผู้เขียนข้อความ
-
ผู้เขียนข้อความ
-
คอเลสเตอรอล(Cholesterol)
เป็นกลุ่มไขมัน เป็นสารที่ไม่มีสีไม่มีกลิ่นและไม่ละลายน้ำ เป็นสิ่งจำเป็นที่ร่างกายขาดไม่ได้เพราะเป็นส่วนประกอบของฮอร์โมนและโครงสร้างผนังเซลล์ เช่น estrogen, cortisol, aldosterone นอกจากนั้นยังใช้ในการสร้างวิตามินดีและน้ำดีสำหรับย่อยไขมันในอาหาร เป็นต้น
ในระบบหมุนเวียนเลือด คอเลสเตอรอลจะถูกหุ้มด้วยสาร Lipoprotein ซึ่งจะทำหน้าที่ขนส่ง คอเลสเตอรอลไปยังกระแสเลือดไปยังเซลล์ต่างๆ เพื่อนำไปใช้งาน โดย Lipiprotens ที่หุ้มคอเลสเตอรอลนี้ มี 2 ชนิด คือ
1.Low-density lipiprotens(LDLs) ทำหน้าที่ขนส่งคอเลสเตอรอลไปเก็บไว้ยังเซลล์ต่างๆ เพื่อนำมาผลิตฮอร์โมน หรือไปสร้างผนังเซลล์ หากคอเลสเตอรอลที่เกินความต้องการ LDLs จะนำไปเกาะไว้ตามผนังเส้นเลือดแดงและเมื่อมีการสะสมไปเรื่อยๆ จะทำให้เส้นเลือดแดงตีบลง ในที่สุดจะเกิดการอุดตันของเส้นเลือดแดง ทำให้เซลล์บริเวณนั้นขาดเลือดไปหล่อเลี้ยง เกิดเซลล์ตาย จึงเรียก LDLs ว่า คอลเลสเตอรอลชนิด “ร้าย,เลว”
2.High-density lipoproteins(HDLs) ทำหน้าที่ขนส่งคอเลสเตอรอลไปยังตับ และขับออกจากร่างกายผ่านทางน้ำดี เนื่องจาก HDLs ทำหน้าที่กำจัดคอเลสเตอรอลส่วนเกิน จึงถูกเรียกว่า คอเลสเตอรอล ชนิด “ดี”
เนื่องจาก Cholesterol นั้นมีความสำคัญต่อร่างกายที่ขาดไม่ได้ ดังนั้นร่างกายจะมีขบวนการสร้างคอเลสเตอรอลขึ้นมาเอง เพื่อประกันว่าร่างกายจะมีคอเลสเตอรอลอยู่ตลอด ธรรมชาติของร่างกายที่จะรักษาสมดุลของคอเลสเตอรอลให้คงที่ เมื่อร่างกายได้รับอาหารจำพวกนม เนย เนื้อสัตว์ และไข่ในปริมาณมาก ร่างกายก็จะลดการสร้างคอเลสเตอรอลลง ในทางตรงกันข้ามหากร่างกายได้รับอาหารจำพวกพืช เพราะพืชไม่สามารถสร้าง Cholesterol ได้ ร่างกายจึงสร้างคอเลสเตอรอลเพิ่มขึ้นเพื่อชดเชย ถ้าหากมีคอเลสเตอรอลที่เป็นส่วนเกิน จะถูกส่งไปยังตับ น้ำดี และขับออกทางอุจจาระ แต่ถ้าหากมีการเพิ่มสูงขึ้นของระดับคอเลสเตอรอลอย่างผิดปกติ มีสาเหตุหลักอยู่ 2 ประการคือ จากพันธุกรรมและพฤติกรรมการทานอาหาร อาจรวมถึง การขาดการออกกำลังกายและสูบบุหรี่ด้วย
-
ผู้เขียนข้อความ
กำลังดู 1 ข้อความ - 1 ผ่านทาง 1 (ของทั้งหมด 1)