เสียงขอบคุณจากผู้ใช้มะโฮ เบต้ากลูแคน(beta 1,3-1,6 glucan) คุณตาเดือน
อัมพาต เบาหวาน โรคไต ความดันโลหิตสูง รักษาทางเลือกด้วย มะโฮ เบต้ากลูแคนจากยีสต์ดำ
คุณตาเดือน เป็นอัมพฤกษ์ แล้วอัมพาต ครึ่งซีกซ้าย ความดันโลหิตสูง เบาหวาน โรคนิ่วในไต รวม 4โรค ไม่สามารถทำกิจวัตรเองได้เลย กินข้าว อาบน้ำต้องมีคนช่วยดูแล จนสุดท้ายคุณหมอให้กลับมาบ้านเพราะไม่มีทางที่จะรักษาแล้ว ยังไงทางครอบครัวก็ต้องเตรียมใจ แต่ล่าสุดได้รู้จักมะโฮพอกินได้สักพักมีอาการแน่นน่าอก กระวนกระวาย ร้อนตามตัว จึงส่งเข้าห้องฉุกเฉิน แต่พอเช้าวันถัดมาคุณตาเดือนรู้สึกสดชื่นขึ้น ล่าสุดค่าเบาหวานลดเหลือ 120 มก./ดล. จากเมื่อก่อน 400-500 ความดันโลหิตก็อยู่ที่ 120 มม. ขับถ่ายก็ดีขึ้นจากเมื่อก่อน 3-4วัน ถ่ายครั้ง อีกทั้งจำคนได้ หยอกล้อคนได้ กินข้าวได้ อาบน้ำเองได้ ใช้ชีวิตได้ปกติ ไม่ลำบากลูกหลาน ทุกวันนี้ทางครอบครัวทานมะโฮกันทั้งบ้านครับ
คุณสามารถดูปัญหาของคนอื่นๆ เพิ่มเติมตรงนี้ครับ , เบาหวานจากผู้ป่วยที่ใช้มะโฮ เบต้ากลูแคน คลิกที่นี่ครับ
อัมพาตจะมีความรุนแรงมากกว่าอัมพฤกษ์ โดยผู้ป่วยที่เป็นอัมพาตอาจเคลื่อนไหวแขนและขาไม่ได้ ในขณะที่ผู้ป่วยอัมพฤกษ์อาจจะมีอาการแขนขาอ่อนแรง แต่ยังพอใช้งานได้อยู่บ้าง
โรคอัมพาต อัมพฤกษ์ (Stroke) เป็นโรคที่สมองขาดออกซิเจนอันเนื่องมาจาก เส้นเลือดไปเลี้ยงสมองอุดตัน หรือแตก ทำให้การทำงานของสมองส่วนต่างๆ ผิดปกติ สมองเป็นอวัยวะที่ควบคุมหน้าที่ต่างๆของร่างกาย หากสมองตายไปเนื่องจากขาดเลือดไปเลี้ยง ผู้ป่วยอาจจะมีปัญหาเกี่ยวกับการพูด พฤติกรรม และความจำ นอกจากนี้ยังทำให้อวัยวะต่างๆ ของร่างกายในส่วนที่สมองส่วนนั้นๆ ควบคุมอ่อนแรง ความผิดปกติของร่างกายที่เกิดขึ้นจะเป็นมากหรือน้อย ขึ้นกับว่าสมองส่วนใดขาดเลือดไปเลี้ยง และขาดเลือดไปเลี้ยงมากน้อยขนาดใด ตัวอย่างเช่น หากสมองด้านหลังขาดเลือดไปเลี้ยง ผู้ป่วยจะมีปัญหาเกี่ยวกับการมองหรือเห็นภาพ บางรายอาจมีอาการปวดศีรษะหรืออาเจียนร่วมด้วย หรือมีอาการมึน งงอย่างรุนแรง หรือมีอาการเหน็บชา ร่างกายอ่อนแรง หรือสูญเสียความสามารถในการเคลื่อนไหวและความรู้สึกของร่างกายซีกใดซีกหนึ่ง
ทำไมผู้ป่วยบางท่านจึงมีอาการ อ่อนแรงครึ่งซีก ตามปกติแล้วสมองด้านขวาจะควบคุมการทำงานของร่างกายซีกซ้าย และสมองด้านซ้ายจะควบคุมการทำงานของร่างกายซีกขวา หากมีปัญหาหลอดเลือดอุดตัน หรือแตก เกิดกับสมองด้านขวา ร่างกายซีกซ้ายของผู้ป่วยจะอ่อนแรง และในทางตรงข้าม หากมีการอุดตันหรือแตกของเส้นเลือดในสมองด้านซ้าย ร่างกายซีกขวาของผู้ป่วยก็จะอ่อนแรง
ปัจจัยความเสี่ยงจะยิ่งเพิ่มขึ้นเมื่อ
- มีอายุมากกว่า 65 ปีขึ้นไป
- ประวัติครอบครัว คนในญาติ พี่น้องเคยป่วยในลักษณะเดียวกัน จะมีความเสี่ยงมากขึ้น
- ผู้ที่มีสีผิวเข้ม มีความเสี่ยงมากกว่า เนื่องจากมีแนวโน้มป่วยด้วยโรคความดันโลหิตสูงและโรคเบาหวาน มากกว่าคนสีผิวอ่อน
- ประวัติการรักษาของผู้ที่เคยมีอาการภาวะสมองขาดเลือดชั่วขณะ หรือหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน
การรักษาโรคอัมพาต อัมพฤกษ์ในปัจจุบัน
อัมพฤกษ์ชนิดที่เกิดจากหลอดเลือดในสมองตีบ จะรักษาโดยการให้ยาเพื่อเน้นบรรเทาอาการ บางชนิดจำเป็นต้องรีบให้ทันที และใช้ในช่วงระยะเวลาสั้นๆ แต่บางชนิดต้องใช้ต่อเนื่องในระยะยาวมากๆ เช่น
- ยาละลายลิ่มเลือด เพื่อกำจัดลิ่มเลือดอุดตัน ทำให้เลือดไหลเวียนได้ดีขึ้น ยาชนิดนี้หากได้รับเร็วจะยิ่งมีประสิทธิภาพในการรักษา แต่ถ้าเกิดเหตุวินิจฉัยผิดจะยิ่งทำให้อาการร้ายแรงขึ้นไปอีก อย่างไรก็ตามยาชนิดนี้มีผลข้างเคียงอาจทำให้เกิดเลือดออกในสมอง
- ยาต้านเกล็ดเลือด เป็นยาทีป้องกันการเกิดลิ่มเลือด ทำให้การอุดตันลดลง
- ยาลดความดันโลหิต ใช้เพื่อป้องกันเลือดออกในสมองระยะยาว
- ยาลดไขมันในเลือด
การรักษาปัจจุบันวิธีอื่นคือการผ่าตัด
- การผ่าตัดเปิดหลอดเลือดใหญ่ที่คอ ใช้ในกรณีที่ผู้ป่วยมีภาวะหลอดเลือดตีบตันอย่างรุนแรง
- การผ่าตัดกำจัดลิ่มเลือด ใช้ในกรณีที่ผู้ป่วยอยู่ในภาวะลิ่มเลือดขัดขวางการไหลเวียนของหลอดเลือดอย่างรุนแรง
อัมพฤกษ์ชนิดที่เกิดจากหลอดเลือดในสมองแตก รักษาด้วยการให้ยาลดความดันโลหิตและยาที่ช่วยป้องกันไม่ให้อาการจะเกิดรุนแรงขึ้นในอนาคต หากเกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น ภาวะโพรงสมองคั่งน้ำ ผู้ป่วยจะต้องได้รับการผ่าตัดเพื่อระบายของเหลวออกจากสมอง การรักษาหลักๆ คือ
- การผ่าตัด เพื่อช่วยหยุดการไหลของเลือดและทำให้บริเวณหลอดเลือดที่โป่งพองไม่มีเลือดไหลออกมาอีก
- การใส่ขดลวด โดยสวนท่อขนาดเล็กเข้าไปที่หลอดเลือดสมองผ่านขาหนีบ เพื่อขัดขวางการไหลเวียนของเลือดที่โป่งพองและป้องกันการเกิดลิ่มเลือด
- การผ่าตัดกำจัดเส้นเลือดที่มีปัญหาออก แต่อาจจะเกิดภาวะแทรกซ้อน หากกำจัดหลอดเลือดที่ผิดปกติออกซึ่งจะส่งผลต่อสมอง แพทย์อาจให้รักษาทางอื่นแทน
- การผ่าตัดด้วยรังสี เป็นการใช้รังสีเพื่อซ่อมแซมหลอดเลือดที่มีความผิดปกติ
ในระหว่างการรักษาเพื่อให้การรักษาเป็นไปได้อย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพและช่วยบรรเทาอาการ หากพบผู้ป่วยมีปัญหาด้านการหายใจ ไม่สามารถรับประทานอาหารเองได้ และเกิดภาวะขาดสารอาหาร ขาดน้ำ และออกซิเจน จะต้องมีการให้อาหาร ทางสายยาง หรือสารน้ำผ่านหลอดเลือดดำ หรือออกซิเจนผ่านหน้ากากเพื่อป้องกันภาวะสมองขาดออกซิเจน
ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับความเสียหายของสมองและควรทำทำกายภาพบำบัด จะช่วยให้ผู้ป่วยได้ขยับแขนขา และออกแรง ก็จะช่วยฟื้นผู้ป่วยในการสื่อสารและเคลื่อนไหวให้ใกล้เคียงปกติที่สุด
การรักษาทางเลือก
มะโฮ เบต้ากลูแคน จะช่วยลดไขมันในเส้นเลือด และกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย ร่างกายจะรักษาตัวเองตามธรรมชาติ สำหรับผู้ป่วยโรคอัมพาต ที่ขยับแขนขาไม่ได้จากไขมันอุดตัน ทานไปสักพักหรือทานไปเรื่อยๆสักระยะ ก็จะสามารถขยับแขนขาได้ตามปกติ ดีขึ้นตามลำดับ ข้อมูลเพิ่มเติมเบต้ากลูแคน มะโฮได้ที่นี่
อัมพฤกษ์ โรคเบาหวาน รักษาทางเลือกจาก มะโฮ เบต้ากลูแคน : คุณเนียม
คุณยายเนียม เป็นอัมพฤกษ์ เบาหวาน ความดัน หัวใจ ได้2ปี พอที่จะเดินได้ แต่ขาด้านซ้ายมีอาการบวม ม่วงสีคล้ำและไม่มีความรู้สึก รักษากับแพทย์ ก็รักษาตามอาการ กินยาวันละหลายเม็ดเพราะเป็นหลายโรค จนได้มารู้จักมะโฮ ทานไป 1กล่องรู้สึกเห็นขาซ้ายแม่ สีจางลง ใกล้คนปกติ จึงตัดสินใจให้แม่ทานวันละ 6 ซองและด้วยความบังเอิญไม่ได้เอายาโรงพยาบาลมา(หยุดยาโรงพยาบาลได้จะดีมากครับ) จึงทานแต่มะโฮ ตัวเดียว ทุกวันนี้ใช้ชีวิตปกติ ลุกขึ้นมา ซักผ้า หุงข้าว ทำอาหารเองหมด อาการมึนหัว เจ็บหัวหายไปจากเมื่อก่อน เดินไปแล้วอาจมึนหัว ฟุบลงไป น้ำตาลในเลือดก็ลดลงปกติ ถ้าหากยายเนียมไม่พบมะโฮ คงตายไปแล้วจริงๆ เพราะยายก็เจ็บ ทรมาน
โรคอัมพฤกษ์ อัมพาต รักษาทางเลือกด้วย เบต้ากลูแคน มะโฮ และเสียงขอบคุณมะโฮ
คุณชัยณรงค์ ป่วยเป็นอัมพฤกษ์ เส้นเลือดในสมองตีบข้างซ้าย ทำให้ซีกขวาไม่มีความรู้สึกตายด้าน จึงต้องกายภาพบำบัดซึ่งแพทย์บอกว่าต้องทำอย่างน้อย 2 ปี ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ แฟนคุณชัยณรงค์จึงต้องดูแลทุกอย่างที่เป็นกิจวัตรประจำวัน ต่อมาเพื่อนคุณชัยณรงค์ได้แนะนำเบต้ากลูแคน มะโฮให้ทาน และทานวันละ 2ครั้ง เช้า เย็น อยู่5 วัน วันที่6 คุณชัยณรงค์สามารถกระดิกนิ้วได้ และค่อยๆดีขึ้นตามลำดับ จนสามารถกินข้าวเองได้ ทำอะไรเองได้ ความจำก็ดีขึ้น เริ่มพูดได้ ไม่ลำบากภรรยาคุณชัยณรงค์อีกต่อไป
การรับประทานเบต้ากลูแคน และแนะนำ สำหรับผู้ป่วยอัมพฤกษ์ อัมพาต
คอร์สรักษาโรคอัมพฤกษ์ อัมพาต แนะนำเริ่มต้น 10,000 บาท มี 4 กล่อง(แยก 10 ซอง) ให้ทานวันละ 4 ซองหรือมากกว่า(ทานมากยิ่งดีครับถ้าทานไหว) แนะนำให้ทานติดต่อกัน3-4 เดือน หลังจากร่างกายดึขึ้นแล้วให้ลดเหลือวันละซองหรือวันเว้นวัน ข้อมูลเพิ่มเติมสอบถามได้ครับ O94-612-2800 LINE ID: betaglucan-maho คุณโอห์ม